ฟีฟ่าเตรียมพิจารณาขยายศึกสโมสรโลกเป็น 48 ทีมในปี 2029 หลังได้รับแรงกดดันจากบรรดาสโมสรยุโรป

ฟีฟ่าเตรียมเปิดเวทีปรึกษาหารือเรื่องการขยายการแข่งขัน ฟุตบอลสโมสรโลก (Club World Cup) เป็น 48 ทีมในปี 2029 หากทัวร์นาเมนต์ในปีนี้ประสบความสำเร็จ โดยมีแรงสนับสนุนจากหลายสโมสรใหญ่ของยุโรปที่ไม่ได้ผ่านเข้าร่วมศึกใหม่ซึ่งมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ (740 ล้านปอนด์)
การแข่งขันสโมสรโลกแบบใหม่ในปีนี้มีทีมเข้าร่วม 32 ทีม และจะจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา โดยผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 125.8 ล้านดอลลาร์ (93.2 ล้านปอนด์) แม้จะถือว่าสูง แต่ยังน้อยกว่ารายได้จากแชมเปียนส์ลีกที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำได้ถึง ประมาณ 118 ล้านปอนด์ จากการลงเตะ 17 นัดในฤดูกาลที่คว้าแชมป์ ทำให้เกิดความกังวลในหมู่สโมสรที่ไม่ได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้
สโมสรชื่อดังอย่าง บาร์เซโลนา, อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และเอซี มิลาน ต่างพลาดโอกาสร่วมแข่งขัน และเว้นแต่ฟีฟ่าจะเพิ่มโควต้าสโมสรยุโรปจากเดิม 12 ทีม การขยายจำนวนทีมคือทางเลือกเดียวที่จะเปิดโอกาสให้สโมสรเหล่านี้เข้าร่วมได้ในอนาคต
โดยปี 2026 และ 2031 ฟีฟ่าก็เตรียมขยายฟุตบอลโลกชายและหญิงเป็น 48 ทีมเช่นกัน จึงมีแนวโน้มว่าสโมสรโลกจะถูกขยายตามไปด้วย
หนึ่งในประเด็นที่ถูกเรียกร้องจากสโมสรพรีเมียร์ลีก คือการยกเลิกข้อจำกัดที่กำหนดให้แต่ละประเทศมีได้ไม่เกิน 2 ทีมในทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ ลิเวอร์พูล หลุดโผ แม้มีผลงานแชมเปียนส์ลีกโดดเด่นในช่วงปี 2021–2024 แต่ต้องหลีกทางให้กับ แมนฯ ซิตี้, เชลซี และเรอัล มาดริด ที่คว้าแชมป์ในช่วงเวลาเดียวกัน
ฟีฟ่าระบุว่าหลังจบทัวร์นาเมนต์ในปีนี้ จะมีการหารือกับสโมสรและสมาพันธ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับรูปแบบและโครงสร้างของรายการในอนาคต โดย แมทเธียส กราฟสตรอม เลขาธิการฟีฟ่า ระบุว่า “ฟีฟ่าพร้อมเปิดใจพิจารณาทุกทางเลือกสำหรับอนาคตของการแข่งขันนี้”
สโมสรยุโรปที่มีฐานแฟนบอลจำนวนมากและพลังการตลาดสูงต่างสนับสนุนการขยาย เพราะเชื่อว่ารายการนี้ยังไม่สะท้อนศักยภาพเชิงพาณิชย์ของพวกเขาอย่างแท้จริง ขณะที่ฟีฟ่าเองก็ประสบปัญหาในการขายลิขสิทธิ์ช่วงแรก ก่อนที่ DAZN จะตกลงจ่าย 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อถือสิทธิ์ถ่ายทอดสดทั่วโลก โดยมี Channel 5 ซื้อสิทธิ์ถ่ายทอด 23 นัดในสหราชอาณาจักร
เบื้องหลังข้อตกลงนี้มี ทุนจากซาอุดีอาระเบีย โดยกองทุน SURJ Sports Investment และ Public Investment Fund (PIF) ของประเทศเป็นพันธมิตรหลักของทัวร์นาเมนต์ รวมถึงสปอนเซอร์ใหญ่อย่าง Adidas, Coca-Cola และ Visa ก็เข้าร่วมในภายหลัง แม้ก่อนหน้านี้ลังเลอยู่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การขยายรายการยังเผชิญแรงต้านจาก FIFPro (สหภาพนักเตะ) และ European Leagues ที่ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวหาว่าฟีฟ่าใช้อำนาจเกินควร และไม่ปรึกษาฝ่ายเกี่ยวข้องเรื่องการจัดตารางการแข่งขัน
ฟีฟ่าปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมตอบโต้ว่า บางลีกมีแรงจูงใจเชิงพาณิชย์และมีพฤติกรรมย้อนแย้ง โดยคณะกรรมาธิการยุโรปยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะสอบสวนกรณีนี้หรือไม่

